มารู้จักกับบ้านวินเชสเตอร์กันเถอะ
4 posters
หน้า 1 จาก 1
มารู้จักกับบ้านวินเชสเตอร์กันเถอะ
Credit : http://my.dek-d.com/cammy/story/viewlongc.php?id=486572&chapter=12
คฤหาสน์วินเชสเตอร์ ตั้งอยู่ที่ ซานโฮโซ แคลิฟอร์เนีย ประเทศอเมริกา ถูกสร้างในปีศตวรรษที่ 19 มันยังคงสภาพมานานเป็นเวลานานถึง 38 ปี และในปี 1974 ได้ถูกบันทึกเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์ของประเทศ ปัจจุบันนี้เปิดให้คนทั่วไปเข้าชม นอกจากในแง่การก่อสร้างอันพิสดารแล้วยังมีชื่อว่าเป็นบ้านผีสิงอีกด้วย สำหรับทัวร์มีทั้งปกติในตอนกลางวันและทัวร์กลางคืน (ต้องมีไกด์นำทางกันหลง)
คฤหาสน์หลังนี้มีมูลค่า 5,500,000 ดอลล่าร์สหรัฐ มีห้องทั้งหมด 160 ห้อง สูง 4 ชั้น (เดิม 7) ห้องใต้ดินสองชั้น ประตู 950 บาน หน้าต่างประมาณหมื่นบาน เตาผิง 47 เตา บันได 40 ที่(376 ขั้น) และห้องจัดเลี้ยงอีก 2 ห้อง
วิลเลี่ยมและซาร่า วินเชสเตอร์ สองสามีภรรยาแห่งตระกูลวินเชสเตอร์ ครั้งหนึ่งตระกูลนี้มีชื่อเสียงมากในการทำปืนไรเฟิลที่มีชื่อเสียงของอเมริกา โอลิเวอร์ พ่อของวิลเลี่ยมได้คิดค้นปืนแบบใหม่ซึ่งสามารถบรรจุกระสุนได้ทีเดียว 13 นัดจากที่เดิมยิงได้เพียงทีละนัด นับเป็นปฏิวัติครั้งใหญ่สำหรับปืนไรเฟิ่ลทีเดียว จนถึงกับมีการเรียกปืนไรเฟิ่ลรุ่นปี 1873 ของวินเชสเตอร์ว่า"The Gun That Won The West"
วิลเลี่ยมขายปืนของพวกเขาให้กับรัฐบาลอเมริกา การทดสอบเป็นไปได้ด้วยดีและปืนก็ถูกนำไปใช้อย่างเป็นทางการโดยทหาร และในขณะเดียวกันมันก็แพร่หลายไปทั่ว ไม่เฉพาะเพียงในอเมริกาเท่านั้น ยังเป็นที่นิยมไปถึงประเทศอื่นๆจนเกือบทั่วโลกอีกด้วย ตระกูลวินเชสเตอร์จึงยิ่งร่ำรวยหนักกลายเป็นมหาเศรษฐีพันล้านล้านและล้าน
แต่ความสำเร็จมักเลือกมาด้วยความสูญเสีย...................
หลังจากประสบความสำเร็จทางธุรกิจไม่นานนัก ซาร่าก็ให้กำเนิดแอนซึ่งเป็นลูกสาวคนแรกหลังจากแต่งงานมาได้ 4 ปี แต่เพียง 1 เดือนหลังจากนั้น แอนก็เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุและทั้งสองก็ไม่มีเคยมีลูกอีกเลย
จากนั้นไม่นาน โอลิเวอร์ซึ่งเป็นผู้คิดค้นปืนวินเชสเตอร์ก็ตายอย่างกะทันหัน วิลเลี่ยมเข้าดูแลกิจการทั้งหมดแทน หากเพียง 1 ปีหลังจากนั้น เขาก็เสียชีวิตลงด้วยโรคปอด
ซาร่าซึ่งถูกเหลือไว้เพียงลำพังไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครดี บังเอิญในเวลานั้น อเมริกากำลังฮิตเรื่องผีเข้าเจ้าทรงพอดี ซาร่าผู้เปล่าเปลี่ยว (แต่เงินเยอะ) จึงตั้งความหวังอยากจะพบกับครอบครัวของเธออีกครั้งแม้พวกเขาจะเป็นวิญญาณก็ตาม
นับตั้งแต่นั้นมาซาร่าก็เปลี่ยนไป...........................
ซาร่าเริ่มใช้ชีวิตอย่างแปลกประหลาด ซาร่าเริ่มจัดงานเรียกวิญญาณขึ้นและถามคนทรงของเธอถึงสามีและลูกสาว แต่วิญญาณที่มาลงกลับไม่ใช่ทั้งสอง(เธอว่าอย่างงั้น)
พวกวิญญาณบอกว่าตัวเองเป็นคนที่ตายด้วยไรเฟิลที่ตระกูลวินเชสเตอร์ทำขึ้น และยังมีวิญญาณอีกมากมายที่แค้นวินเชสเตอร์ด้วยสาเหตุเดียวกัน พวกเขาจึงสาปตระกูลวินเชสเตอร์ให้ต้องประสบกับเคราะห์กรรมต่างๆนานา คนทรงบอกกับซาร่าว่า เธอจะต้องไปยังฝั่งตะวันตก และสร้างบ้านที่นั่นไปเรื่อยๆ ซึ่งถ้าเธอหยุดสร้างเมื่อใด เธอก็จะต้องตายด้วยคำสาป
ซาร่าทิ้งบ้านที่คอนติเนคัทและย้ายไปยังซานโจเซ่ในแคลิฟอร์เนีย เธอซื้อบ้านนาขนาด 8 ห้องที่นั่นและเริ่มต้นการต่อเติมในปี 1844 ตลอดระยะเวลาสามสิบปี เธอมักเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของบ้านครั้งแล้วครั้งเล่า เธอมักอ้างเหตุผลว่าทำตามความต้องการของวิญญาณซึ่งมักเปลี่ยนแปลงไปมา
โดยซาร่าจะ พิธีเรียกวิญญาณด้วยตัวเอง และวิญญาณก็คอยบอกเธอว่าจะต้องต่อเติมบ้านต่อไปยังไง ในไม่ช้า บ้านที่เดิมเคยมี 8 ห้องก็กลายมาเป็นเขาวงกตขนาดย่อม
ห้องกว่า 100 ห้องถูกสร้างขึ้นโดยไม่มีเหตุผล แต่ละที่มีการสร้างกับดักไว้กันวิญญาณมากมาย ประตูที่เปิดเข้าไปแล้วเจอกำแพง บันไดที่นำไปเจอทางตัน ยังมีบันไดซึ่งมีขั้นสูงเพียง 5 เซนติเมตร ประตูที่เปิดจากชั้นสองออกไปนอกบ้านโดยไม่มีระเบียง
บันไดซึ่งไปสุดอยู่ที่เพดาน
บ้านหลังนี้ความสำคัญกับเลข 13 เป็นพิเศษโดยเชื่อว่าเป็นเลขศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซู ห้องซึ่งถูกแบ่งด้วยแผ่นผนัง 13 แผ่น เพดานซึ่งถูกปูด้วยแผ่นไม้ 13 แผ่น เทียนไข 13 แท่งบนโคมระย้า ห้องแต่งตัวและห้องน้ำ 13 ห้อง ช่างไม้ซึ่งเป็นผู้ต่อเติมก็มี 13 คน
ภายในบ้านถูกตบแต่งด้วยสิ่งประดับชั้นเลิศซึ่งสั่งมาจากต่างประเทศ มีทั้งชักโครก น้ำร้อนและเครื่องปั่นไฟซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัยที่สุดในยุคนั้น
ปี 1907 แคลิฟอร์เนียประสบกับแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ บ้านวินเชสเตอร์ซึ่งเดิมมี 7 ชั้นก็ได้รับความเสียหายจนเหลือเพียง 4 ชั้น ห้องนอนของซาร่าซึ่งอยู่ชั้น 4 ถูกผนังทลายลงมาปิดทับและเธอก็หลงทางอยู่ในบ้านของตัวเอง ซาร่าสิ้นหวังจนคิดว่าเธอคงต้องมาตายที่นี่แล้ว หากไม่กี่ชั่วโมงถัดมาเธอก็ได้รับการช่วยเหลือออกมาโดยปลอดภัย และนั่นก็ยิ่งทำให้ซาร่าทุ่มทุนกับการต่อเติมบ้านหนักขึ้นไปอีก
ปี 1922 ซาร่าจากโลกนี้ไปด้วยอายุ 84 ปีและคฤหาสน์ก็หยุดการเติบโต เธอใช้เงินจำนวนมาก(ได้จากสิทธิบัตรของไรเฟิ่ล) สร้างบ้านใหญ่โตก็จริง แต่โดยชีวิตส่วนตัวแล้ว เธออยู่อย่างเรียบง่ายและประหยัด จะมีการใช้เงินก้อนใหญ่ก็ต่อเมื่อเป็นการบริจาคเพื่อสังคมเท่านั้นเอง โรงงานผลิตไรเฟิ่ลวินเชสเตอร์ถูกขายทอดผ่านมือคนไปครั้งแล้วครั้งเล่าจนปัจจุบันได้กลายเป็นโรงงานทำปืนสำหรับล่าสัตว์
ทุกวันนี้บ้านวินเชสเตอร์กลายเป็นที่ดึงดูดแหล่งใหญ่ของนักท่องเที่ยว แม้บ้านจะดูแปลก แต่ปริศนาของพลังการผลักดันของซาร่าในการต่อเติมบ้านหลังนี้ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความบ้านส่วนตัวหรือคำบงการของวิญญาณ แต่มันก็ยังคงอยู่ให้เราแสวงหาต่อไป
ใครที่รู้แล้วก็ขออภัยนะคะที่มันค่อนข้างน่าเบื่อสักนิด^/\^(แหม...พริ๊นอยากมีบ้านงี้มั่งอ่ะไว้หนีไม้เรียวแม่...หุๆๆๆ)
คฤหาสน์วินเชสเตอร์ ตั้งอยู่ที่ ซานโฮโซ แคลิฟอร์เนีย ประเทศอเมริกา ถูกสร้างในปีศตวรรษที่ 19 มันยังคงสภาพมานานเป็นเวลานานถึง 38 ปี และในปี 1974 ได้ถูกบันทึกเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์ของประเทศ ปัจจุบันนี้เปิดให้คนทั่วไปเข้าชม นอกจากในแง่การก่อสร้างอันพิสดารแล้วยังมีชื่อว่าเป็นบ้านผีสิงอีกด้วย สำหรับทัวร์มีทั้งปกติในตอนกลางวันและทัวร์กลางคืน (ต้องมีไกด์นำทางกันหลง)
คฤหาสน์หลังนี้มีมูลค่า 5,500,000 ดอลล่าร์สหรัฐ มีห้องทั้งหมด 160 ห้อง สูง 4 ชั้น (เดิม 7) ห้องใต้ดินสองชั้น ประตู 950 บาน หน้าต่างประมาณหมื่นบาน เตาผิง 47 เตา บันได 40 ที่(376 ขั้น) และห้องจัดเลี้ยงอีก 2 ห้อง
วิลเลี่ยมและซาร่า วินเชสเตอร์ สองสามีภรรยาแห่งตระกูลวินเชสเตอร์ ครั้งหนึ่งตระกูลนี้มีชื่อเสียงมากในการทำปืนไรเฟิลที่มีชื่อเสียงของอเมริกา โอลิเวอร์ พ่อของวิลเลี่ยมได้คิดค้นปืนแบบใหม่ซึ่งสามารถบรรจุกระสุนได้ทีเดียว 13 นัดจากที่เดิมยิงได้เพียงทีละนัด นับเป็นปฏิวัติครั้งใหญ่สำหรับปืนไรเฟิ่ลทีเดียว จนถึงกับมีการเรียกปืนไรเฟิ่ลรุ่นปี 1873 ของวินเชสเตอร์ว่า"The Gun That Won The West"
วิลเลี่ยมขายปืนของพวกเขาให้กับรัฐบาลอเมริกา การทดสอบเป็นไปได้ด้วยดีและปืนก็ถูกนำไปใช้อย่างเป็นทางการโดยทหาร และในขณะเดียวกันมันก็แพร่หลายไปทั่ว ไม่เฉพาะเพียงในอเมริกาเท่านั้น ยังเป็นที่นิยมไปถึงประเทศอื่นๆจนเกือบทั่วโลกอีกด้วย ตระกูลวินเชสเตอร์จึงยิ่งร่ำรวยหนักกลายเป็นมหาเศรษฐีพันล้านล้านและล้าน
แต่ความสำเร็จมักเลือกมาด้วยความสูญเสีย...................
หลังจากประสบความสำเร็จทางธุรกิจไม่นานนัก ซาร่าก็ให้กำเนิดแอนซึ่งเป็นลูกสาวคนแรกหลังจากแต่งงานมาได้ 4 ปี แต่เพียง 1 เดือนหลังจากนั้น แอนก็เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุและทั้งสองก็ไม่มีเคยมีลูกอีกเลย
จากนั้นไม่นาน โอลิเวอร์ซึ่งเป็นผู้คิดค้นปืนวินเชสเตอร์ก็ตายอย่างกะทันหัน วิลเลี่ยมเข้าดูแลกิจการทั้งหมดแทน หากเพียง 1 ปีหลังจากนั้น เขาก็เสียชีวิตลงด้วยโรคปอด
ซาร่าซึ่งถูกเหลือไว้เพียงลำพังไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครดี บังเอิญในเวลานั้น อเมริกากำลังฮิตเรื่องผีเข้าเจ้าทรงพอดี ซาร่าผู้เปล่าเปลี่ยว (แต่เงินเยอะ) จึงตั้งความหวังอยากจะพบกับครอบครัวของเธออีกครั้งแม้พวกเขาจะเป็นวิญญาณก็ตาม
นับตั้งแต่นั้นมาซาร่าก็เปลี่ยนไป...........................
ซาร่าเริ่มใช้ชีวิตอย่างแปลกประหลาด ซาร่าเริ่มจัดงานเรียกวิญญาณขึ้นและถามคนทรงของเธอถึงสามีและลูกสาว แต่วิญญาณที่มาลงกลับไม่ใช่ทั้งสอง(เธอว่าอย่างงั้น)
พวกวิญญาณบอกว่าตัวเองเป็นคนที่ตายด้วยไรเฟิลที่ตระกูลวินเชสเตอร์ทำขึ้น และยังมีวิญญาณอีกมากมายที่แค้นวินเชสเตอร์ด้วยสาเหตุเดียวกัน พวกเขาจึงสาปตระกูลวินเชสเตอร์ให้ต้องประสบกับเคราะห์กรรมต่างๆนานา คนทรงบอกกับซาร่าว่า เธอจะต้องไปยังฝั่งตะวันตก และสร้างบ้านที่นั่นไปเรื่อยๆ ซึ่งถ้าเธอหยุดสร้างเมื่อใด เธอก็จะต้องตายด้วยคำสาป
ซาร่าทิ้งบ้านที่คอนติเนคัทและย้ายไปยังซานโจเซ่ในแคลิฟอร์เนีย เธอซื้อบ้านนาขนาด 8 ห้องที่นั่นและเริ่มต้นการต่อเติมในปี 1844 ตลอดระยะเวลาสามสิบปี เธอมักเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของบ้านครั้งแล้วครั้งเล่า เธอมักอ้างเหตุผลว่าทำตามความต้องการของวิญญาณซึ่งมักเปลี่ยนแปลงไปมา
โดยซาร่าจะ พิธีเรียกวิญญาณด้วยตัวเอง และวิญญาณก็คอยบอกเธอว่าจะต้องต่อเติมบ้านต่อไปยังไง ในไม่ช้า บ้านที่เดิมเคยมี 8 ห้องก็กลายมาเป็นเขาวงกตขนาดย่อม
ห้องกว่า 100 ห้องถูกสร้างขึ้นโดยไม่มีเหตุผล แต่ละที่มีการสร้างกับดักไว้กันวิญญาณมากมาย ประตูที่เปิดเข้าไปแล้วเจอกำแพง บันไดที่นำไปเจอทางตัน ยังมีบันไดซึ่งมีขั้นสูงเพียง 5 เซนติเมตร ประตูที่เปิดจากชั้นสองออกไปนอกบ้านโดยไม่มีระเบียง
บันไดซึ่งไปสุดอยู่ที่เพดาน
บ้านหลังนี้ความสำคัญกับเลข 13 เป็นพิเศษโดยเชื่อว่าเป็นเลขศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซู ห้องซึ่งถูกแบ่งด้วยแผ่นผนัง 13 แผ่น เพดานซึ่งถูกปูด้วยแผ่นไม้ 13 แผ่น เทียนไข 13 แท่งบนโคมระย้า ห้องแต่งตัวและห้องน้ำ 13 ห้อง ช่างไม้ซึ่งเป็นผู้ต่อเติมก็มี 13 คน
ภายในบ้านถูกตบแต่งด้วยสิ่งประดับชั้นเลิศซึ่งสั่งมาจากต่างประเทศ มีทั้งชักโครก น้ำร้อนและเครื่องปั่นไฟซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัยที่สุดในยุคนั้น
ปี 1907 แคลิฟอร์เนียประสบกับแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ บ้านวินเชสเตอร์ซึ่งเดิมมี 7 ชั้นก็ได้รับความเสียหายจนเหลือเพียง 4 ชั้น ห้องนอนของซาร่าซึ่งอยู่ชั้น 4 ถูกผนังทลายลงมาปิดทับและเธอก็หลงทางอยู่ในบ้านของตัวเอง ซาร่าสิ้นหวังจนคิดว่าเธอคงต้องมาตายที่นี่แล้ว หากไม่กี่ชั่วโมงถัดมาเธอก็ได้รับการช่วยเหลือออกมาโดยปลอดภัย และนั่นก็ยิ่งทำให้ซาร่าทุ่มทุนกับการต่อเติมบ้านหนักขึ้นไปอีก
ปี 1922 ซาร่าจากโลกนี้ไปด้วยอายุ 84 ปีและคฤหาสน์ก็หยุดการเติบโต เธอใช้เงินจำนวนมาก(ได้จากสิทธิบัตรของไรเฟิ่ล) สร้างบ้านใหญ่โตก็จริง แต่โดยชีวิตส่วนตัวแล้ว เธออยู่อย่างเรียบง่ายและประหยัด จะมีการใช้เงินก้อนใหญ่ก็ต่อเมื่อเป็นการบริจาคเพื่อสังคมเท่านั้นเอง โรงงานผลิตไรเฟิ่ลวินเชสเตอร์ถูกขายทอดผ่านมือคนไปครั้งแล้วครั้งเล่าจนปัจจุบันได้กลายเป็นโรงงานทำปืนสำหรับล่าสัตว์
ทุกวันนี้บ้านวินเชสเตอร์กลายเป็นที่ดึงดูดแหล่งใหญ่ของนักท่องเที่ยว แม้บ้านจะดูแปลก แต่ปริศนาของพลังการผลักดันของซาร่าในการต่อเติมบ้านหลังนี้ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความบ้านส่วนตัวหรือคำบงการของวิญญาณ แต่มันก็ยังคงอยู่ให้เราแสวงหาต่อไป
ใครที่รู้แล้วก็ขออภัยนะคะที่มันค่อนข้างน่าเบื่อสักนิด^/\^(แหม...พริ๊นอยากมีบ้านงี้มั่งอ่ะไว้หนีไม้เรียวแม่...หุๆๆๆ)
Re: มารู้จักกับบ้านวินเชสเตอร์กันเถอะ
ถูกต้องแล้วพี่แจม ถ้าจำไม่ผิดมันมีอธิบายในตอนแล้วน่ะ แต่รู้สึกว่าจะย่อลงไปเยอะกว่านี้=w=
ผมก็อยากมีบ้างน่ะ แต่กลัวหลงจนแห้งตายกลายเป็นมัมมี่ไปก่อน= ="แหม...พริ๊นอยากมีบ้านงี้มั่งอ่ะไว้หนีไม้เรียวแม่...หุๆๆๆ
vantimiglia- Lucky Star
- birth : 13/01/1911
Placement : ที่ๆเรารักกัน ;w;
Re: มารู้จักกับบ้านวินเชสเตอร์กันเถอะ
อยากได้เช่นกันเอาไว้เก็บ อนิเม + มังงะ + การ์ตูนชักจะล้นบ้าน
darkindavil- Silver Star
- birth : 28/05/1993
Placement : หลุมดำ?
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|